เรียนขับรถพร้อมใบขับขี่ ต้องที่แอดวานซ์
การควบคุมความเร็วของรถ
หลังจากที่มีการฝึกการเดินหน้าและถอยหลังแล้วผู้เรียนต้องสามารถควบคุมความเร็วของรถขณะรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ลักษณะมีการเลี้ยวด้านซ้ายและด้านขวาหลาย ๆ ครั้งได้อย่างคล่องตัว
ในบทนี้ผู้เรียนจะสามารถเคลื่อนรถไปข้างหน้า ลักษณะหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้โดยการใช้การควบคุมความเร็วควบคู่กับการบังคับพวงมาลัย และการเคลื่อนที่ของรถต้องปราศจากการกระตุกหรือเครื่องยนต์ดับและต้องไม่ชนสิ่งกีดขวางทั้งทางด้านซ้ายและขวา
โดยมีการฝึกปฏิบัติซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนเกิดความชำนาญ ดังนี้
- เลือกช่องทางในการเคลื่อนรถ เช่น ถ้าจะมีการเลี้ยวรถไปทางด้านซ้ายให้เลือกพื้นที่ทางด้านขวา
ก่อนทำการเลี้ยว เพื่อเพิ่มพื้นที่ ในขณะทำการเลี้ยวและเพิ่มความสามารถในการมอง - การใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ทำการฝึก
- การจับพวงมาลัยควรจับอยู่ที่ตำแหน่ง 2 และ 10 ตามเข็มนาฬิกา เพื่อความคล่องตัวในการบังคับ
ขณะเคลื่อนที่และจังหวะในการคืนพวงมาลัย - เพิ่มความเร็วในการหมุนพวงมาลัย โดยพิจารณาจากมุมที่ทำการเลี้ยวและจังหวะในการคืน
พวงมาลัย - การควบคุมความเร็วของรถโดยอาจมีการใช้คลัทช์หรือเบรกในการควบคุมการเคลื่อนที่ของรถตาม
สภาพสิ่งกีดขวาง - การใช้สายตาในการมองมุมยอดต่าง ๆ ในจังหวะการเคลื่อนที่ของตัวรถ
โดยระหว่างการฝึก ผู้ฝึกจะอธิบายแสอนขับรถละสาธิตตามหัวข้อต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้องดังนี้
- ความสำคัญของการหาตำแหน่งในขณะเคลื่อนรถ
- ความสำคัญของการใช้เกียร์ การใช้คลัทช์และเบรกในการเคลื่อนรถ
- การใช้สายตาในการมองขณะเคลื่อนรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
- การหมุนพวงมาลัยและการคืนพวงมาลัยไม่สัมพันธ์หรือมีการหมุน การคืนไม่สม่ำเสมอ
การเปลี่ยนเกียร์ขั้นพื้นฐาน
ในบทนี้ผู้เรียนจะได้รับการฝึกอบรมครั้งแล้วครั้งเล่าจาก โรงเรียนสอนขับรถยนต์ จนสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ดังนี้
- เปลี่ยนเกียร์ทั้งขึ้นและลงและต้องไม่ทำให้เครื่องยนต์ใช้กำลังรอบของเครื่องเกินกว่ากำลังที่เหมาะสม
หรือลากเกียร์ - ใช้เกียร์อย่างถูกต้องมีการเปลี่ยนเกียร์ในจังหวะที่เหมาะสม
- ควบคุมรถได้อย่างดี
- เมื่อเปลี่ยนเกียร์เรียบร้อยแล้วให้นำมือกลับมาจับที่พวงมาลัยทันทีทุกครั้ง
การฝึกฝนใช้เกียร์มีพื้นฐานดังนี้
- ตำแหน่งของเกียร์ควรจะถูกเขียนติดไว้ตามลักษณะของแต่ละเกียร์โดยติดไว้ที่แห่งใดแห่งหนึ่งโดย
ปกติจะติดไว้ที่หัวเกียร์หรือที่อื่น - หัวเกียร์จะอยู่ติดอยู่หรือสวมใส่ติดกับคันเกียร์ซึ่งจะพอเหมาะกับอุ้งมือของผู้ขับ โดยทั่วไปการ
เปลี่ยนเกียร์จะใช้มือเป็นตัวกำหนดเกียร์หนึ่งและสองจะไปทางซ้ายเกียร์สาม สี่ และห้า จะอยู่ทางขวา
ตามลำดับ - การเปลี่ยนเกียร์
ถอนเท้าขวาจากแป้นคันเร่ง ใช้เท้าซ้ายเหยียบที่แป้นคัลทช์ ดันเกียร์ไปที่เกียร์ที่สูงกว่าปล่อยเท้าซ้าย
ออกจากคลัทช์ช้า ๆ ให้เท้าขวาเหยียบคันเร่งเบา ๆ
การเปลี่ยนเกียร์ลง
ถอนเท้าขวาจากแป้นคันเร่ง ให้เท้าซ้ายเหยียบที่แป้นคลัทช์ ดันเกียร์ไปที่เกียร์ไปที่เกียร์ต่ำกว่า
ในตำแหน่งที่ต้องการปล่อยเท้าซ้ายออกจากคลัทช์ช้า ๆ ใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งเบา ๆ ตามความเร็ว
ที่ต้องการ
โดยครูผู้ฝึกสอน โรงเรียนสอนขับรถ จะมาสาธิตและอธิบายให้ผู้เรียนได้และขั้นตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- จุดประสงค์และประโยชน์ของเกียร์
- ระบบการทำงานของเกียร์ต่าง ๆ
- ตำแหน่งของเกียร์และวิธีการเปลี่ยนเกียร์
- ระบบการทำงานของคลัทช์ และผลของคลัทช์ต่อการขับขี่ เมื่อมีการเหยียบคลัทช์ ขณะรถหยุดหรือ
เปลี่ยนเกียร์ - เกียร์สามารถถูกนำไปใช้เพื่อลดความเร็วของรถได้ แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเกียร์ให้ต่ำกว่า
เกียร์ 3 ระดับเมื่อรถใกล้จะหยุดสนิท - ใช้รถอย่างใส่ใจ
ในระหว่างการฝึกใช้เกียร์หากมีข้อผิดพลาดใดเกิดขึ้น ผู้สอนจะเป็นผู้ชี้จุดผิดพลาดให้กับผู้เรียนเพื่อให้สามารถเข้าใจและใช้เกียร์ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย